
ข้อมูล T1D
ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ
เกี่ยวกับเรา
เบาหวานขึ้นตา อาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1
เรียบเรียงโดย: 17.03.2025
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เบาหวานขึ้นตา ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็นของคุณได้
หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดต่าง ๆ เมื่อหลอดเลือดที่ดวงตาได้รับความเสียหายก็จะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงจอตาซึ่งเป็นส่วนประกอบของตาที่ทำให้เรามองเห็น
เมื่อหลอดเลือดในดวงตาถูกทำลาย จอตาจะได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ตามองเห็นได้ไม่ชัดหรืออาจถึงขั้นตาบอดได้
วิธีที่อาจช่วยในการป้องกันปัญหาเบาหวานขึ้นตาได้ คือการสังเกตอาการผิดปกติของดวงตาตั้งแต่เนิ่น ๆ และการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว รวมทั้งการตรวจดวงตาประจำปีก็อาจช่วยให้แพทย์ประจำตัวพบความผิดปกติของตาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
– ต้อกระจก เกิดจากการที่แก้วตาหนาและขุ่นมัวขึ้น ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนและมองเห็นลำบากในเวลากลางคืน
– ต้อหิน ความดันในลูกตาสูงจะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงจอตาและเส้นประสาทตาลดลง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อดวงตา หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษา อาจส่งผลให้ตาบอดได้
– เบาหวานขึ้นตา เกิดจากการที่หลอดเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงจอประสาทตาถูกทำลายหรือเกิดความเสียหายในจอตา
เบาหวานขึ้นตา เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการสูญเสียการมองเห็นของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ ผู้ป่วยจึงควรดูแลตัวเองให้ดีด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้
โรคเบาหวานขึ้นตาจะค่อยๆเป็นและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อดวงตา หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจอย่างทันท่วงทีจะทำให้ตาบอดได้ในที่สุด
การรักษาโรค เบาหวานขึ้นตา ในระยะเริ่มแรกอาจต้องมีการฉีดยาเข้าตาเพื่อหยุดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของภาวะนี้ แต่หากเบาหวานขึ้นตามีอาการรุนแรงมากขึ้นจนอาจมีปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น จอประสาทตาหลุด ก็อาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อรักษาดวงตา
แม้จะมีรูปแบบการรักษาเบาหวานขึ้นตา แต่จริงๆแล้ว หากถามว่าโรคเบาหวานขึ้นตา นั้นจะมีโอกาสหายขาดได้ไหม คำตอบคือภาวะนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แพทย์อาจช่วยดูแลจนสามารถกลับมามองเห็นได้ แต่การมองเห็นจะไม่เหมือนเดิม
วิธีที่ดีที่สุดในการสังเกตว่าดวงตามีความผิดปกติหรือไม่ คือการตรวจโดยตรงกับจักษุแพทย์ ดวงตาคุณอาจผิดปกติได้แม้ว่าสายตาจะยังปกติอยู่ เพราะความผิดปกติของดวงตาที่เกิดจากโรคเบาหวานมักไม่เกี่ยวข้องกับค่าสายตาและการมองเห็น
หากตรวจหาความผิดปกติของตาให้เจอและรีบรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจช่วยป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้ เพราะฉะนั้น ควรทำนัดตรวจดวงตาที่ไม่ใช่การตรวจวัดค่าสายตาเป็นประจำทุกปี
การตรวจคัดกรองตาในผู้ป่วยเบาหวานตรวจดูอะไรบ้าง ทั้งนี้ จักษุแพทย์จะถ่ายรูปจอตาแต่ละข้างเพื่อเปรียบเทียบดูการเปลี่ยนแปลงของจอตาและดูว่ามีลักษณะของโรคจอตาหรือไม่
หากตรวจพบความผิดปกติของดวงตาควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการรักษาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็น
หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
รับการตรวจคัดกรองดวงตาทุกปี
คอยสังเกตความความเปลี่ยนแปลงของการมองเห็น เช่น ตามัว (โดยเฉพาะเวลากลางคืน) เห็นวัตถุลอยไปมาในตา หรือตาสู้แสงไม่ได้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพตามแนวทางที่คุณหมอหรือทางโรงพยาบาลกำหนด และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี เช่น น้ำหวาน ขนมหวาน หรืออาหารขยะ เช่น มันฝรั่งทอด
พยายามออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เป็นประจำทุกวัน
ปัญหาการมองเห็นนับว่าสำคัญต่อผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตรวจสอบ อาจส่งผลเสียต่อการมองเห็นและอาจถึงขั้นตาบอดได้
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรควบคุมอาการของโรคเบาหวานให้ดี เพราะการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมคือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคเบาหวาน อย่าลืมว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานยังมีความเสี่ยงต่อสภาวะต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และปัญหาเกี่ยวกับไต ดังนั้น จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยและความเสี่ยงต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ยังคงมีสุขภาพดีต่อไป