
ข้อมูล T1D
ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ
เกี่ยวกับเรา
เครื่อง ดื่ม โรค เบาหวาน สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1
เรียบเรียงโดย: 17.03.2025
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดเป็นสารเสพติดที่ใช้เพื่อกระตุ้นให้เกิดอารมณ์สนุกสนานหรือผ่อนคลาย มีจำหน่ายตามกฎหมายขึ้นอยู่กับอายุและถิ่นที่อยู่
โปรดตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นเกี่ยวกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอายุขั้นต่ำที่กฎหมายอนุญาตให้ดื่ม
เช่นเดียวกับยาเสพติดอื่น ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอันตราย และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และความสัมพันธ์
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดและทำให้มีอันตรายมากขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่าง เหล้า กับ เบาหวาน หรือ เบียร์ กับ เบาหวาน ก็คือ เมื่อเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่มีความเสี่ยงสูงที่ระดับน้ำตาลในเลือดจะไม่คงที่
สิ่งสำคัญคือต้องทราบเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อที่คุณจะสามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้
แอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
แอลกอฮอล์ประเภทต่าง ๆ ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่างกัน เช่น เบียร์และไวน์หวานมีคาร์โบไฮเดรตจำนวนมากซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เหล้าชนิดต่าง ๆ เช่น วิสกี้ วอดก้า และจิน อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 จึงควรระมัดระวังเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ตับจะคิดว่าเป็นสารพิษที่ร่างกายต้องขับออก
ตับมักจะปล่อยกลูโคสในปริมาณเล็กน้อยเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งอยู่ในภาวะสมดุลจากอินซูลินชนิดออกฤทธิ์นาน
ในขณะที่ตับกำลังกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย ตับจะหยุดปล่อยกลูโคส ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระหว่างที่กำลังดื่มแอลกอฮอล์
ระดับน้ำตาลในเลือดอาจเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดแล้วหลังจากนั้นระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงเมื่อตับเริ่มกำจัดแอลกอฮอล์
สัญญาณและอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำนั้นยากต่อการสังเกตเห็นเพราะอาจดูคลล้ายกับอาการเมา
จึงส่งผลให้คุณหรือเพื่อนไม่ทันสังเกตอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายเพราะผู้ที่เป็นเบาหวานอาจไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้องและรวดเร็วพอ
สัญญาณและอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมักรวมถึงอาการตัวสั่น มือสั่น เหงื่อออก เวียนศีรษะ ปวดหัว ร้องไห้ หงุดหงิด หิว ง่วงซึม สับสน หัวใจเต้นเร็ว และชาบริเวณริมฝีปากและนิ้วมือ
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดในทันที หากต่ำกว่า 4 มิลลิโมล/ลิตร หรือต่ำกว่า 72 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้รักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำทันทีโดยรับประทานของว่างที่เตรียมไว้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสังเกตและรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โปรดคลิกอ่านบทความที่นี่
เคล็ดลับสำคัญประการหนึ่งเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน คือ ต้องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ก่อน ระหว่าง และหลังดื่ม
เนื่องจากคุณมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเมื่อออกไปข้างนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไปงานกินเลี้ยงเต้นรำหรือออกแรงมากกว่าปกติ
ดังนั้นจึงควรมีเพื่อนหรือคนรอบข้างหนึ่งคนที่ทราบว่าคุณเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และรู้วิธีรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และคอยเตือนให้คุณตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
รับประทานคาร์โบไฮเดรตก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอย่าดื่มเหล้าหรือเบียร์ในขณะท้องว่าง
รับประทานของขบเคี้ยวที่มีคาร์โบไฮเดรตทุกๆ สองสามชั่วโมงในขณะดื่ม
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง เกี่ยวกับ เครื่องดื่ม คือ ควรดื่มช้า ๆ กำหนดจังหวะของตัวเอง และดื่มน้ำหนึ่งแก้วหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ทุกครั้ง
เรียนรู้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตใน เครื่องดื่มแต่ละชนิด เช่น เหล้าผสม อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปหลังดื่ม ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้เพราะอาจทราบปริมาณน้ำตาลได้ยาก
อย่าลืมฉีดอินซูลิน
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อนเข้านอน
รับประทานของว่างก่อนนอนและอย่าลืมว่าร่างกายยังคงเผาผลาญแอลกอฮอล์ต่อไปแม้จะหยุดดื่มแล้วก็ตาม
เตรียม 'Hypo Kit' หรือชุดอุปกรณ์สำหรับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำไว้ข้างเตียง เพื่อที่จะได้พกไปโรงพยาบาลในตอนกลางคืนเกิดเหตุจำเป็น
ตั้งนาฬิกาปลุกหรือขอให้สมาชิกในครอบครัวตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตอนกลางคืน
อย่าให้ร่างกายขาดน้ำในวันรุ่งขึ้นและหมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และฉีดอินซูลินตามปกติ
คุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หากไม่จำเป็น หรือหากคุณรู้สึกกดดันให้ดื่ม เพราะอาจเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมโรคเบาหวานชนิดที่ 1 กับปริมาณของแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ได้
เมื่อการควบคุมเบาหวานของคุณนั้นไม่คงเส้นคงวา และคุณมักมีระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่โดยอาจสูงหรือต่ำบ่อยครั้ง
หากเส้นประสาทหรือดวงตาเสียหายเนื่องจากโรคเบาหวานชนิดที่ 1
ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่าดื่มในขณะท้องว่าง ควรดูให้แน่ใจว่าในมื้ออาหารหรือของว่างก่อนเริ่มดื่มนั้นมีคาร์โบไฮเดรตอยู่ด้วย
อย่าดื่มคนเดียว บอกเพื่อนให้รู้ว่าคุณเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เพื่อเพื่อนจะได้ช่วยกันดูแล